รีวิว ไทยรุ่ง TR TRANSFORMER ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์ออโต้ ใหม่
โดยการเปิดตัวนี้พร้อมจัดกลุ่มขับทดสอบให้แก่สื่อมวลชน ด้วยเส้นทางกรุงเทพฯ – เขาค้อ เมื่อวันที่ 3-4 กค. ที่ผ่านมา และเปิด Show Room Thai Rung Center สาขาวิภาวดี อีกด้วย โดยในปีนี้ บริษัทมีแผนงานเพิ่มช่องทางการจำหน่ายรถ TR Transformer ใหม่ โดยแต่งตั้ง Dealer เพิ่มอีก 10 แห่ง ในภาคเหนือ , ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ , ภาคตะวันออก และภาคใต้ เช่น เชียงใหม่ , เชียงราย , พะเยา , พิษณุโลก ,นครราชสีมา, ขอนแก่น ,อุดรธานี , ระยอง , สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช เป็นต้น ทั้งนี้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ TR Transformer จะเป็นเจ้าของกิจการ ในต่างจังหวัด, ผู้บริหารราชการส่วนท้องถิ่น
TR TRANSFORMER ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ ใหม่ ยังคงดีไซน์รูปทรงเหลี่ยมตามแบบฉบับรถ Hummer H3 ยังคงดูสไตล์แบบรถ OffRoad หรือรถกองทัพ เมื่อคุณขับไปไหนแล้ว เจอด่านตรวจอย่างในทริปนี้ นั้นคุณสามารถที่จะขับผ่านไปได้โดยง่าย สำหรับในรุ่นใหม่ขับเคลื่อน 2 ล้อนี้ ฝากระโปรงหน้ามีเอกลักษณ์จาก Wind Scoop ที่ดักลมเข้า Intercooler แบบ Hilux Vigo กระจกมองข้างแบบแบบโครเมี่ยม พร้อมไฟเลี้ยวในตัว กล้องส่องภาพด้านหลัง ประตูท้ายดีไซน์ใหม่เปิดปิดจังหวะเดียว เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน
สำหรับภายในยังคงจุดขายที่ ความกว้างขวางภายในห้องโดยสาร พร้อมเบาะตอนหลังพับปรับเอนได้ พื้นที่ Legroom เหลือแบบสบายๆ และแอร์บนพื้นที่ตอน3 ช่วยกระจายความเย็นได้ทั่วห้องโดยสาร แผงคอนโซลจนไปถึงพวงมาลัย 4 ก้าน พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ และเครื่องเสียงจอสัมผัสขนาด 6.1” มากับระบบ Navi พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ USB และ AUX
ในการก้าวขึ้นรถที่ค่อนข้างสูงนี้ ทางด้านหน้าจะมีมือโหนตรงบริเวณเสา A ทางฝั่งคนขับเพียงฝั่งเดียวเท่านั้น ซึ่งการก้าวขึ้นรถในตำแหน่งผู้โดยสาร อาจจะลำบากสักเล็กน้อย หากเป็นผู้สูงอายุ หรือคนที่ตัวเล็กอาจจะต้องก้าวยืดขามากเป็นพิเศษ
ในด้านของขุมพลังขับเคลื่อนได้ยกเครื่องมาจาก Toyota รหัส 2KD-FTV(VNT) ดีเซลคอมมอนเรล ความจุ 2.5 ลิตร VN Turbo Intercooler ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้า@ 3.400rpm มีแรงบิดสูงสุด 343Nm@1,600-2,800rpm จ่ายกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด
การขับเคลื่อนพบว่า แม้แรงบิดสูงเท่ากับรุ่น 3.0 ที่มาตั้งแต่รอบเครื่องต่ำแต่ด้วยน้ำหนักตัวถังที่หนักเอาเรื่อง จึงทำให้มันออกตัวช้ากว่ารถยนต์ PPV หรือรถยนต์ทั่วๆไป อย่างเห็นได้ชัด และช้ากว่ารุ่น 3.0 อยู่เล็กน้อยบนทางลาดตรงเราสามารถลองทำความเร็วสูงสุดได้อยู่ที่ 155 กม./ชม. ซึ่งนั่นอาจไม่ได้สำคัญมากนัก กับความเร็วปลายของรถรูปทรงเหลี่ยมต้านลมเช่นนี้ แต่ยังมีสิ่งที่เราประทับใจนั่นคือ ช่วงที่ขับขึ้นลาดชันบริเวณเขาค้อ พบว่า เจ้า TR Transformer นี้ทำได้ดีน่าประทับใจกว่าการขับขี่บนทางลาดตรง เนื่องจากแรงบิดที่มีมาสูงตั้งแต่รอบเครื่องต่ำช่วยให้การปีนป่ายนั้น มีกำลังฉุดเพียงพอแม้ตัวรถจะหนักกว่า 2 ตัน เพียงแค่ผลักคันเกียร์มาทางขวาไปที่ตำแหน่ง D4 ก็เพียงพอ หรือบางจังหวะที่ชันมากหน่อย ก็ผลักลงมาที่ 3 ก็มีกำลังฉุดขึ้นไปได้อย่างไม่ยากเย็นจนเกินไป สำหรับตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองนั้น อาจต้องทำใจจากตัวเลขที่อยู่ระดับ 10 กม./ลิตร. กับการขับขี่ระยะทางยาว ที่ความเร็วเฉลี่ย 120 กม./ชม. มีการแซงรถช้าบ้างในบางจังหวะ
การควบคุม Handling พวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พีเนียน ในการควบคุมที่ความเร็วต่ำ ดูจะหนืดๆมือ และในการเคลื่อนออกตัวก็ต้องยอมรับว่ามันดูหนักในสไตล์ของรถกระบะ เราแอบรู้สึกว่ามันดูหนืดมือกว่า Hilux Vigo อยู่เล็กน้อย แต่การควบคุมในย่านความเร็วสูงยัง มันดูเบาเกินไปชัดเจน ระยะฟรีมีมากเกินไป ซึ่งการขับที่ความเร็วมากเกินกว่า 120 กม./ชม. จะต้องควบคุมให้ดีด้วย 2 มือ เพราะตัวถังรถที่ดูต้านลมส่งผลให้มันส่ายและโคลงมากพอสมควร ซึ่ง พบอาการแบบนี้เช่นเดียวกันตั้งแต่ TR Transformer โฉมปีก่อน
ส่วนระบบช่วงล่างใช้แบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง โดยด้านหลังเป็นแบบแหนบซ้อนและโช้คอัพทรงกระบอกติดตั้งทแยงมุมกัน ใช้ล้ออัลลอยจาก Toyota Vigo ขนาดยาง 265/70R16 ให้ความนุ่มในการโดยสารระดับพอใช้ในแบบฉบับรถกระบะ Vigo ที่ใส่ยางแก้มสูง
สำหรับการยึดเกาะถนนที่ความเร็วสูงบนทางตรง พบว่าด้วยตัวถังที่มีน้ำหนักมากช่วยกดให้แชสซีส์รถดูนิ่งที่ความเร็วสูง แต่บนทางโค้ง นั่นเป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวัง หากเข้าโค้งที่ความเร็วสูง จะสัมผัสได้ถึงอาการของตัวรถที่ดูโคลงมากเป็นพิเศษ และที่สำคัญ มันทำให้ตัวรถเลี้ยวไม่เข้า (Understeer) อีกด้วย ซึ่งจะต้องใช้การคัดพวงมาลัย และยกคันเร่งเข้าช่วย
ระบบห้ามล้อเบรกนั้น ใช้แบบหน้าดิสก์ พร้อมครีบระบายความร้อน และหลังดรัม ซึ่งก็ได้ยกมาจาก Hilux Vigo เช่นกัน แต่ด้วย น้ำหนักตัวรถเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้การเบรกต้องเผื่อระยะ มากขึ้นอีก และการกดตอบสนองของแป้นเบรกจะอยู่ค่อนข้างลึก นั่นทำให้เวลาเบรกต้องเผื่อระยะเอาไว้พอสมควร หรือการขับมาเร็ว จะต้องยกคันเร่ง แล้วค่อยๆ เลียเบรกเอาไว้แต่เนิ่นๆ หรืออาจใช้การลดเกียร์ เพื่อเป็น Engine Brake ช่วยด้วย จะดีขึ้นมาก
สรุป TR Transformer ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ ใหม่ นี้ ในด้านสไตล์การขับขี่ให้ฟีลลิ่งที่ดูคล้ายเดิมกับรุ่น 3.0 ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์ธรรมดา เพียงแต่ในรุ่นนี้ ได้มีการปรับเพิ่มออปชั่นกันเล็กน้อย เพื่อให้ใช้งานได้ง่ายสะดวก เหมาะเจาะกับคนที่รักชอบความสบายยิ่งขึ้น และเกียร์อัตโนมัติที่ช่วยให้ขับง่ายเมื่อรถติดในตัวเมือง แต่ด้วยเครื่องยนต์เพียง 2.5 ลิตร จึงอาจมีพละกำลังลดลงไปเล็กน้อย แต่ไม่ได้รู้สึกแตกต่างมากจนเกินไป ซึ่งถ้าเน้นซื้อมาขับใช้งานแบบทั่วๆไป ไม่ได้กะหวดไล่ที่ความเร็วสูง ก็เพียงพอต่อการใช้
แต่ด้วยราคา TR Transformer รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ ใหม่อยู่ที่ 1,395,000 บาท ทำให้กลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อนี้ จะต้องเป็นกลุ่มจำเพาะที่รักในรูปทรงที่แปลกตาไม่เหมือนใคร เนื่องจากราคานี้ สามารถซื้อรถ SUV เครื่องยนต์ 2.0 แบบนั่งได้สบายๆ สำหรับในรุ่น 3.0 ขับเคลื่อน 4ล้อ เกียร์ธรรมดา จำหน่ายในราคา 1,485,000 บาท และ รุ่น 3.0 Plus 4 ขับเคลื่อน 4ล้อ เกียร์อัตโนมัติ จำหน่ายในราคา 1,590,000 บาท
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver
พบรถมือ 2 ได้ที่ Thaicar.com
วันที่ลงประกาศ : 19 กรกฎาคม 2557